Register Register Member Login Member Login Member Login Forgot Password ??
PHP , ASP , ASP.NET, VB.NET, C#, Java , jQuery , Android , iOS , Windows Phone
 

Registered : 109,027

HOME > PHP > PHP Forum > สอบถามหน่อยครับว่า ถ้าผมต้องการจัด text ให้กระจายแบบไทย (Thai Distributed) จะทำอย่างไรครับ



 

สอบถามหน่อยครับว่า ถ้าผมต้องการจัด text ให้กระจายแบบไทย (Thai Distributed) จะทำอย่างไรครับ

 



Topic : 099904



โพสกระทู้ ( 140 )
บทความ ( 0 )



สถานะออฟไลน์




เช่นผมมีประโยคยาวๆ 1 ประโยค แต่อยากจะจัด report ให้สวยงามจะทำอย่างไรครับ

ตัวอย่างครับ
ตัวอย่าง 1

อยากให้เป็น
ตัวอย่าง 2



Tag : PHP







Move To Hilight (Stock) 
Send To Friend.Bookmark.
Date : 2013-09-02 11:19:46 By : zinlucifer View : 8484 Reply : 4
 

 

No. 1



โพสกระทู้ ( 2,311 )
บทความ ( 1 )



สถานะออฟไลน์


แบบนี้ป่ะ

<div style="text-align:justify;">ข้อความ</div>






แสดงความคิดเห็นโดยอ้างถึง ความคิดเห็นนี้
Date : 2013-09-02 11:39:32 By : arm8957
 


 

No. 2



โพสกระทู้ ( 140 )
บทความ ( 0 )



สถานะออฟไลน์


ตอบความคิดเห็นที่ : 1 เขียนโดย : arm8957 เมื่อวันที่ 2013-09-02 11:39:32
รายละเอียดของการตอบ ::
ได้แล้วครับขอบคุณครับ

แสดงความคิดเห็นโดยอ้างถึง ความคิดเห็นนี้
Date : 2013-09-02 13:35:21 By : zinlucifer
 

 

No. 3

Guest


สิ่งสำคัญ: ถ้าคุณต้องการแทรกหัวกระดาษและท้ายกระดาษ ให้ตรวจสอบให้แน่ใจว่าได้แทรกข้อความจากไฟล์ในส่วนใหม่เพื่อให้ใช้หัวกระดาษและท้ายกระดาษกับหน้าเหล่านั้นเท่านั้น ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับส่วนต่างๆ ที่ แทรกตัวแบ่งส่วน

แสดงความคิดเห็นโดยอ้างถึง ความคิดเห็นนี้
Date : 2024-01-11 01:20:03 By : Juggikl
 


 

No. 4

Guest


บทที่ 2
การศึกษาความเป็นไปได้และทฤษฎีที่เกี่ยวข้อง
2.1 กำหนดปัญหา (Problem Definition)
จากการศึกษาการปลูกผักไฮโดรโปรนิกส์ พบว่าการเจริญเติบโตของผักแต่ละชนิดนั้นมีหลายปัจจัย
เช่น แสง น้ำ ธาตุอาหาร อุณหภูมิ ความเป็นกรดด่าง ออกซิเจน แบะคาร์บอนไดออกไซด์ การผสมสารละลายธาตุอาหารในสัดส่วนที่เหมาะสมก็เป็นส่วนสำคัญที่ต้องควบคุม ทำให้เกษตรกรเกิดปัญหาในการควบคุมปัจจัยดังกล่าวให้เหมาะสม และแม่นยำอยู่ตลอดเวลา จึงสรุปปัญหาเกี่ยวต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในการปลูกผักได้ดังนี้
1) การตรวจวัดค่าต่าง ๆ ยุ่งยาก ต้องใช้เทคโนโลยีเข้ามาเสริม
2) เจ้าของฟาร์มไม่สามารถรู้ถึงค่าความเป็นกรดด่าง อุณหภูมิ ออกซิเจนได้
2.2 การศึกษาความเป็นไปได้
การศึกษาความเป็นไปได้ของระบบใหม่ที่นำเสนอระบบได้อย่างถูกต้อง และตรงความต้องการของผู้ใช้
งาน มีการศึกษาเกี่ยวกับประเด็นหลัก ๆ เกี่ยวกับระบบได้ดังนี้
1) เพื่อเพิ่มความแม่นยำในการวัดค่าต่าง ๆ ได้อย่างถูกต้องมากยิ่งขึ้น
2) เพื่อลดปัญหาต่าง ๆ ที่ทำให้การเจริญเติบโตของผักล่าช้า
2.3 การกำหนดความต้องการ
1) ความต้องการที่เป็นฟังก์ชั่นการทำงาน
ความต้องการที่เป็นฟังก์ชั่นการทำงานนั้นจะตั้งอยู่บนพื้นฐานของขั้นตอน และกระบวนการในการทำงานต่าง ๆ และตอบสนองความต้องการของผู้ใช้เป็นสำคัญ เป็นขั้นตอนการทำงานที่ประกอบไปด้วย กิจกรรมต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติงานของฟาร์ม โดยแต่ละกิจกรรมจะก่อให้เกิดผลการดำเนินงานออกมา เช่น
- ระบบสามารถบันทึกข้อมูลได้อย่างถูกต้องและครบถ้วน
- สามารถเรียกใช้ข้อมูลได้อย่างแม่นยำและรวดเร็ว
- ระบบสามารถเก็บข้อมูลได้อย่างสะดวกและปลอดภัย
- ระบบสามารถแสงดงรายละเอียดข้อมูลต่าง ๆ ได้อย่างสมบูรณ์
- ระบบสามารถตรวจวัดค่าต่าง ๆ ได้และแม่นยำ
2) ความต้องการที่ไม่เป็นฟังก์ชั่นการทำงาน
เป็นความต้องการที่เกี่ยวข้องกับประสิทธิภภาพ และคุณสมบัติในการทำงานของระบบโดยเป็นการปฏิบัติงาน เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ของการทำงานในทุก ๆ ด้าน ที่เกี่ยวข้องกับสภาพแวดล้อมของระบบ
มีประสิทธิภาพในการทำงานและการใช้งาน มีความน่าเชื่อถือ มีความปลอดภัย รวดเร็ว ไม่ซับซ้อน สะดวกต่อการใช้งาน รองรับการทำงานในสภาพแวดล้อมใหม่ และสามารถทำงานร่วมกับ ฮาร์ดแวร์ และซอฟต์แวร์ของระบบอื่นได้
2.4 การเก็บรวบรวมข้อมูล
การเก็บรวบรวมข้อมูลของฟาร์ม ได้จากการติดต่อผู้ดูแลของฟาร์ม การสัมภาษณ์ ศึกษากระบวนการทำงานจากเอกสารเดิม การรวบรวมข้อมูลจากเอกสารเดิมที่ยังมีอยู่ถือเป็นเรื่องง่ายและได้ข้อมูลมาก ซึ่งข้อมูลจากเอกสารเดิมที่มี สามารถที่จะมาปรับใช้เพื่อแก้ปัญหาและวิเคราะห์ข้อมูล เพื่อหาจุดที่ต้องพัฒนาหรือนำเอกสารมาปรับใหม่ ซึ่งทำให้เข้าใจถึงระบบการทำงานของฟาร์มมากยิ่งขึ้น จากการวิเคราะห์หาแนวทางแก้ไข พบว่าระบบคอมพิวเตอร์สามารถเข้ามาช่วยในการจัดการปัญหาที่เกิดขึ้นได้ โดยเฉพาะในด้านความสะดวกรวดเร็วในการค้นหาข้อมูล การคำนวณ ลดภาระงานที่ซ้ำซ้อน ดังนั้น จึงได้วิเคราะห์และออกแบบระบบงานใหม่ที่ใช้ระบบคอมพิวเตอร์ช่วยในการจัดการ
2.5 ทฤษฎีที่เกี่ยวข้อง
1) การปลูกผักโดรโปนิกส์
เป็นการปลูกพืชแบบหนึ่งที่นิยมมากโยปัจจุบันเนื่องจากการปลูกพืชแบบไฮโดรโปนิกส์นั้นจะเป็นการปลูกพืชแบบไร้ดินทำให้สามารถหลีกเสี่ยงปัจจัยต่าง ๆ ที่ไม่เอื้ออำนวยต่อการปลูกพืชแบบทั่วไป ยกตัวอย่างเช่น สภาพดินปลูกที่ไม่เหมาะสม สภาพอากาศแปรปรวน รวมไปถึงขนาดของพื้นที่ในการปลูก เป็นต้น ซึ่งการควบคุมปัจจัยทางสภาพแวดล้อมได้อย่างถูกต้องและแม่นยำจะส่งผลให้พืชมีผลผลิตที่ดีและมีคุณภาพสูงขึ้น ข้อดีสำหรับการปลูกพืชไร้ดิน คือ เกษตรกรสามารถปลูกพืชในสภาพแวดล้อมที่ไม่เหมาะสมต่อการปลูกพืชได้ซึ่งสามารถปลูกพืชได้ตลอดปี สามารถลดค่าใช้จ่ายในการเตรียมดินปลูกและลดภาระในการกำจัดวัชพืช นอกจากนี้พืชจะเจริญเติบโตเร็วและให้ผลผลิตที่มากกว่าการปลูกแบบธรรมดา ยิ่งไปกว่านั้นเกษตรกรยังสามารถใช้น้ำและธาตุอาหารได้อย่างมี
ประสิทธิภาพ ในทางกลับกันข้อเสียของการปลูกพืชแบบไฮโดรโปนิกส์ คือ การใช้ต้นทุนในการผลิตสูง อีกทั้งยังต้องมีผู้เชี่ยวชาญและมีประสบการณ์ในการควบคุมดูแลอย่างใกล้ชิด นอกจากนี้วัสดุปลูกบางชนิดยังย่อยสลายยาก เช่น ไนเตรท ซึ่งอาจจะส่งผลกับคุณภาพน้ำได้ โดยทั่วไปพืชจะพยายามใช้เอมไชด์ในพืชมาเร่งปฏิกิริยาเพื่อเปลี่ยนไนเตรทให้เป็นแอมโมเนียและกรดอะมิโนซึ่งกระบวนการนี้จะมีแสงแดดเป็นปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการนี้ ซึ่งถ้าควบคมอากาศให้เหมาะสมจะทำให้ในเตรทของพืชลดน้อยลง สำหรับผักที่นิยมปลูกแบบไร้ดิน แบ่งเป็นหลายกลุ่ม ดังนี้ กลุ่มผักสลัดไฮโดรโปนิกส์เช่น บัตเตอร์เฮด กรีนโอ๊ค เรดโอ๊ค กรีนคอส เรดคอรอล เป็นต้น และกลุ่มผักสวนครัว เช่น ผักคะน้าผักบุ้งจีน กวางตุ้ง ผักกาดขาวได้โตเกียว ผักกาดฮ่องเต้ ผักโขม เป็นต้น
ปัจจัยที่ทำให้พืชเจริญเติบโตได้ดีนั้นมีหลายปัจจัย เช่น แสง น้ำ ธาตุอาหาร อุณหภูมิ ความเป็นกรดด่าง ออกซิเจน และคารับอนไดออกไซด์ ซึ่งการปลูกพืชบนดินจะมีปัจจัยเหล่านี้ครบแต่ดินในแต่ละพื้นที่จะมีคุณสมบัติไม่แน่นอนทำให้ปัจจัยที่กล่าวมาสามารถเปลี่ยนแปลงได้ สำหรับการปลูกพืชไร้ดินนั้นพืชจะได้รับสารละลายที่มีธาตุอาหารที่จำเป็นต่อการเจริญเดิบโตของพืช ซึ่งพืชสามารถดูดซึมไปใช้ได้ทันทีเพราะมีการปรับคำการนำไฟฟ้าและความเป็นกรดด่างให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมแล้วสารละลายนี้เรียกว่า "สารละลายธาตุอาหารพืช" ที่เป็นการละลายมาจากปุยเคมีในน้ำ ส่วนการปลูกพืชโดยทั่วไปจะมีสารอาหารในน้ำและในดินผสมกันจะเรียกว่า "สารอาหารในดิน" รากของพืชจะสัมผัสกับสารละลายดังกล่าวเพื่อดูดเอาไปใช้ในการเจริญเติบโต
สำหรับการจัดการสารละลายในการปลูกพืชแบบไฮโดรโปนิกส์ จำเป็นต้องมีการควบคุมค่าการนำไฟฟ้า (Electrical conductivity) และความเป็นกรดด่าง (pH) เพื่อให้พืชสามารถดูดซึมสารอาหารได้อย่างเหมาะสม ยิ่งไปกว่านั้นยังต้องควบคุมอุณหภูมิและออกซิเจนในสารละลายธาตุอาหารอีกด้วย กรณีค่าความเป็นกรดด่างสูงหรือต่ำเกินไปจะทำให้ตะกอน ซึ่งหากสารละลายมีความเป็นกรดมากสามารถปรับสมดุลได้โดยใช้โซเดียมไฮดรอกไซต์ (NaOH) เป็นต้นหากสารละลายมีความเป็นด่างมากใช้กรดซัลฟูริก (HS2O4) กรดไนตริก (HNO3) กรดไฮโดรคลอริก (HCI) กรดฟอสฟอริก (H3PO4) กรดอซิติก (CH3COOH) เป็นต้น
ในส่วนของการควบคุมค่าการนำไฟฟ้าของสารละลายนั้น ต้องคำนึงถึงระยะการเติบโตของพีช โดยที่พืชอยู่ในระยะแรกของการปลูกจะมีความต้องการค่าการนำไฟฟ้าต่ำ และจะเพิ่มมากขึ้นเมื่อมีความเจริญเติบโต ซึ่งพืชแต่ละชนิดจะมีความต้องการด้านการนำไฟฟ้าที่ต่างกัน เช่น ผักสลัดต้องการสารละลายธาตุอาหารที่มีค่าการนำไฟฟ้าอยู่ระหว่าง 0.5 – 2.0 เป็นต้น นอกจากนี้ค่าการนำฟฟ้าในสารละลายจะเปลี่ยนแปลงไปตามอุณหภูมิ กล่าวคือ เมื่ออุณหภูมิสูงจะทำให้ค่าการนำไฟฟ้าสูงขึ้น
ระบบที่ใช้ในการปลูกพืชแบบไฮโดรโปนิกส์มี 5 ระบบ คือ
1) NFT (Nutrient Film Technique) เป็นการปลูกแบบระบบให้สารละลายธาตุอาหารไหลผ่านรากพืชเป็นแผ่นบาง ๆ เหมือนแผ่นฟิล์มซึ่งจะไหลบนรางปลูกอย่างต่อเนื่อง
2) NFLT (Nutrient Flow Technique) การปลูกแบบระบบให้สารละลายธาตุอาหารไหลผ่านรากพืชแบบแผ่นหนาอย่างต่อเนื่อง รากพืชจะได้รับออกซิเจนขณะน้ำไหลผ่าน
3) DFT (Deep Flow Technique) เป็นระบบที่ปลูกพืชโดยรากแช่อยู่ในสารละลายลึกประมาณ 15 เซนติเมตร ถึง 20 เซนติเมตร โดยจะมีการปลูกพืชบนแผ่นโฟมหรือวัสดุที่สามารถลอยน้ำได้ ซึ่งระบบนี้จะต้องใช้ปั๊มน้ำในการดูดสารละลายแบบหมุนเวียนเพื่อเพิ่มปริมาณเพื่อเพิ่มปริมาณออกซิเจน
4) DRFT (Dynamic Root Floating Technique) เป็นการปลูกพืชโดยให้รากแช่อยู่ในสารละลาย และให้อากาศไหลวนผ่านรากพืชที่ระดับความลึกประมาณ 4 เซนติเมตร ซึ่งสารละลายจะไหลลงถังบรรจุและจะไหลเวียนขึ้นมาที่ถาดปลูก ขณะทที่สารละลายไหลเวียนขึ้นมาจะผ่านหัวพ่นอากาศเพื่อใช้สำหรับเติมอากาศลงสารละลาย
5) FAD (Food and Drain) เป็นการปลูกพืชที่เป็นการผสมระกว่าง NFT และระบบ DFT โดยให้สารละลายธาตุอาหารท่วมภาชนะปลูกและรากพืชอยู่ช่วงเวลาหนึ่ง จากนั้นจึงระบายออกมาตามช่วงเวลาสลับกันไปเรื่อย ๆ (เกษตรโฟกัส: คู่มือการปลูกผักไฮโดรโปนิกส์ เทคนิคการเพาะเลี้ยงและการจัดการอย่างมืออาชีพ พิมพ์ครั้งที่ 2. กรุงเทพฯ: นีออน บุ๊ค มีเดียว 2558.)
2) สมาร์ทฟาร์ม (Smart Farm) คืออะไร
สมาร์ทฟาร์ม (Smart Farm) กำลังเติบโตเป็นอย่างมากทั่วโลก เป็นการบริหารจัดการฟาร์มด้วยเทคโนโลยีหลากหลาย เช่น IoT (Internet of Things), หุ่นยนต์, โดรน และโปรแกรมปัญญาประดิษฐ์ (เอไอ) เพื่อเพิ่มปริมาณผลผลิตและคุณภาพของผลิตภัณฑ์ และยังช่วยให้เกิดการใช้แรงงานคนได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุดอีกด้วย
ระบบ สมาร์ทฟาร์ม นั้น ทำให้เกษตรกรเห็นประโยชน์จากการใช้เทคโนโลยีมาช่วย ไม่ว่าจะเป็นทั้งทางด้านเกษตรกรรม (Agriculture) หรือเกษตรกรรมในน้ำ (Aquaculture) ให้เจ้าของหรือผู้ดูแลฟาร์มเกิดความสะดวกสบาย สามารถแก้ปัญหาต่างๆ ได้อย่างทันท่วงที หรือแม้แต่ใช้เวลาในการบริหารจัดการฟาร์มน้อยกว่าสมัยก่อน จากการใช้เทคโนโลยีมาช่วยนี้

3) อินเตอร์เน็ตของสรรพสิ่ง (Internet of Things)
เป็นเครือข่ายของวัตถุ อุปกรณ์หรือสิ่งของที่ถูกฝังไปด้วยอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ซอฟต์แวร์ เซ็นเซอร์ และเครือข่ายที่สามารถเชื่อมต่อได้ ซึ่งเป็นการเปิดกว้างในเรื่องของข้อมูลให้สามารถเก็บรวบรวมและแลกเปลี่ยนข้อมูลกันและกันได้ อินเตอร์เน็ตทุกสรรพสิ่งจะยอมให้สิ่งต่าง ๆ เหล่านี้สามารถรับรู้และถูกควบคุมจากระยะไกลผ่านเครือข่ายที่มีอยู่ในปัจจุบันได้ซึ่งถือเป็นการสร้างโอกาสสำหรับการบูรณาการระหว่างสิ่งของทั่วไปกับระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งอาจจะส่งผลให้มีการเพิ่มประสิทธิภาพ ความแม่นยำ และเกิดผลดีในเชิงเศรษฐกิจ วัตถุแต่ละสิ่งจะมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวโดยสามารถระบุข้อมูลเฉพาะผ่านอุปกรณ์ฝังตัวได้ และสามารถทำงานร่วมกันผ่านทางเครือข่ายอินเตอร์เน็ตที่มีอยู่เช่น LAN Wi-Fi 3G 4G เป็นต้น ซึ่งผู้เชี่ยวชาญได้คาดการณ์ว่าในปี ค.ศ. 2020 จะมีอุปกรณ์ที่เป็น IoT ประมาณ 5 หมื่นล้านอุปกรณ์ การใช้อินเตอร์เน็ตของสรรพสิ่งมาใช้ร่วมกับเกษตรกรรมจะทำให้สามารถแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ให้กับเกษตรกรได้ ซึ่งจะทำให้กลายเป็นการเกษตรที่มีความแม่นยำสูงและตรงต่อความต้องการของพืชหรือสัตว์ ยิ่งไปกว่านั้นเกษตรกรสามารถใช้ทรัพยากรที่มีอยู่ได้อย่างคุ้มค่าและเหมาะสมกับพื้นที่ทำการเกษตรมากที่สุด อีกทั้งยังสามารถดูแลรักษาได้อย่างใกล้ชิดผ่านทางอุปกรณ์คอมพิวเตอร์โดยมีสื่อกลางในการส่งข้อมูลคือระบบ

แสดงความคิดเห็นโดยอ้างถึง ความคิดเห็นนี้
Date : 2024-01-11 08:57:05 By : aaa
 

   

ค้นหาข้อมูล


   
 

แสดงความคิดเห็น
Re : สอบถามหน่อยครับว่า ถ้าผมต้องการจัด text ให้กระจายแบบไทย (Thai Distributed) จะทำอย่างไรครับ
 
 
รายละเอียด
 
ตัวหนา ตัวเอียง ตัวขีดเส้นใต้ ตัวมีขีดกลาง| ตัวเรืองแสง ตัวมีเงา ตัวอักษรวิ่ง| จัดย่อหน้าอิสระ จัดย่อหน้าชิดซ้าย จัดย่อหน้ากึ่งกลาง จัดย่อหน้าชิดขวา| เส้นขวาง| ขนาดตัวอักษร แบบตัวอักษร
ใส่แฟลช ใส่รูป ใส่ไฮเปอร์ลิ้งค์ ใส่อีเมล์ ใส่ลิ้งค์ FTP| ใส่แถวของตาราง ใส่คอลัมน์ตาราง| ตัวยก ตัวห้อย ตัวพิมพ์ดีด| ใส่โค้ด ใส่การอ้างถึงคำพูด| ใส่ลีสต์
smiley for :lol: smiley for :ken: smiley for :D smiley for :) smiley for ;) smiley for :eek: smiley for :geek: smiley for :roll: smiley for :erm: smiley for :cool: smiley for :blank: smiley for :idea: smiley for :ehh: smiley for :aargh: smiley for :evil:
Insert PHP Code
Insert ASP Code
Insert VB.NET Code Insert C#.NET Code Insert JavaScript Code Insert C#.NET Code
Insert Java Code
Insert Android Code
Insert Objective-C Code
Insert XML Code
Insert SQL Code
Insert Code
เพื่อความเรียบร้อยของข้อความ ควรจัดรูปแบบให้พอดีกับขนาดของหน้าจอ เพื่อง่ายต่อการอ่านและสบายตา และตรวจสอบภาษาไทยให้ถูกต้อง

อัพโหลดแทรกรูปภาพ

Notice

เพื่อความปลอดภัยของเว็บบอร์ด ไม่อนุญาติให้แทรก แท็ก [img]....[/img] โดยการอัพโหลดไฟล์รูปจากที่อื่น เช่นเว็บไซต์ ฟรีอัพโหลดต่าง ๆ
อัพโหลดแทรกรูปภาพ ให้ใช้บริการอัพโหลดไฟล์ของไทยครีเอท และตัดรูปภาพให้พอดีกับสกรีน เพื่อความโหลดเร็วและไฟล์ไม่ถูกลบทิ้ง

   
  เพื่อความปลอดภัยและการตรวจสอบ กระทู้ที่แทรกไฟล์อัพโหลดไฟล์จากที่อื่น อาจจะถูกลบทิ้ง
 
โดย
อีเมล์
บวกค่าให้ถูก
<= ตัวเลขฮินดูอารบิก เช่น 123 (หรือล็อกอินเข้าระบบสมาชิกเพื่อไม่ต้องกรอก)







Exchange: นำเข้าสินค้าจากจีน, Taobao, เฟอร์นิเจอร์, ของพรีเมี่ยม, ร่ม, ปากกา, power bank, แฟลชไดร์ฟ, กระบอกน้ำ

Load balance : Server 02
ThaiCreate.Com Logo
© www.ThaiCreate.Com. 2003-2024 All Rights Reserved.
ไทยครีเอทบริการ จัดทำดูแลแก้ไข Web Application ทุกรูปแบบ (PHP, .Net Application, VB.Net, C#)
[Conditions Privacy Statement] ติดต่อโฆษณา 081-987-6107 อัตราราคา คลิกที่นี่