Register Register Member Login Member Login Member Login Forgot Password ??
PHP , ASP , ASP.NET, VB.NET, C#, Java , jQuery , Android , iOS , Windows Phone
 

Registered : 109,027

HOME > PHP > PHP Forum > ขอแนะนำบทความหน่อยนะครับ เรื่อง การใช้ตัวแปรในสตริง (String Interpolation) ครับ



 

ขอแนะนำบทความหน่อยนะครับ เรื่อง การใช้ตัวแปรในสตริง (String Interpolation) ครับ

 



Topic : 090681



โพสกระทู้ ( 1,819 )
บทความ ( 20 )

สมาชิกที่ใส่เสื้อไทยครีเอท

สถานะออฟไลน์
Facebook



บทความนี้เขียนขึ้นจากการสังเกตเห็นสมาชิกในไทยครีเอทหลายๆ คนนิยมและบอกต่อให้ใช้การเชื่อมต่อสตริง
แทนที่จะใช้ตัวแปรในสตริง ทั้งๆ ที่ความสามารถนี้เป็นอะไรที่ทำให้ PHP (หรือภาษาอื่นที่มีความสามารถนี้เช่น Perl และ Ruby) มีจุดเด่น

ผมเขียนเป็นบทความไว้แล้ว แต่ขอโพสต์เป็นกระทู้ด้วยครับ เผื่อจะได้พูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน




บ่อยครั้งที่ผมเห็นหลายๆ คนนิยมเขียนโค้ดลักษณะนี้

$sql = "SELECT * FROM table";
$sql .= "WHERE id = '" . $id . "'";


ซึ่งก็มาจากการแนะนำบอกต่อกันมาว่าแบบนี้ดี ทำให้อ่านง่าย เห็นชัด
อันนี้ผมไม่เถียงครับ แต่ผลที่ตามมาในหลายๆ กระทู้ที่ผมสังเกต
วิธีเขียนแบบนี้นี่แหละที่ทำให้มือใหม่หลายๆ คนออกมาตั้งกระทู้ถามว่า "ฉันเขียนผิดตรงไหน"
เพราะการเขียนแบบเชื่อมต่อสตริง ทำให้เกิดข้อผิดพลาดได้ง่าย หากไม่ใช่คนที่คุ้นเคยกับ PHP
หรือช่างสังเกต อาจจะไม่รู้เลยว่าผิดตรงไหน อะไรยังไง

เช่น

$sql = "UPDATE table SET name = '" . $name . "', color = '" . $color . "'";
$sql .= "type = '" . $type . "' WHERE id = '" . $id . "'";


ลองหาที่ผิดดูครับ




วิธีที่เรียบง่ายกว่า แต่ไม่นิยมใช้กันเพราะ "ความเชื่อ"

เคยเป็นที่ถกเถียงกันในเว็บนักพัฒนาต่างประเทศว่าการเชื่อมต่อสตริงนั้น "ทำงานได้เร็วกว่า" การใช้ตัวแปรในสตริง
แต่หลังจากนั้นก็มีการทดสอบจนได้ผลว่า การเชื่อมต่อสตริงทำงานเร็วกว่าในกรณีที่ "มีการเชื่อมต่อแค่ครั้งเดียว"
แต่ถ้ามีมากกว่านั้นการใช้ตัวแปรในสตริงจะทำงานได้เร็วกว่า

$a = "Hello World $str";
$b = "Hello World " . $str; // เร็วกว่า

$a = "Hello World $str !!!";
$b = "Hello World " . $str . " !!!"; // แต่แบบนี้ไม่


และยิ่งไปกว่านั้น หากมีตัวแปรมากขึ้นเท่าไหร่ ความเร็วการทำงานก็จะต่างกันมากขึ้นเท่านั้น

$sql = "UPDATE table SET name = '" . $name . "', color = '" . $color . "'";
$sql .= ", type = '" . $type . "' WHERE id = '" . $id . "'";

$fastSQL = "UPDATE table SET name = '$name', color = '$color', type = '$type' WHERE id = '$id'"; // แบบนี้เร็วกว่ามาก


และความเชื่ออีกอย่างคือ คิดว่าการเชื่อมต่อสตริงทำให้อ่านง่ายกว่า
ลองมาดูกันชัดๆ ครับ

การเชื่อมต่อสตริง
$sql = "INSERT INTO table";
$sql .= "(first_name, last_name, username, password)";
$sql .= "VALUES ('" . $first_name . "','" . $last_name . "'"
$sql .= ",'" . $username . "','" . $password . "')";


การใช้ตัวแปรในสตริง
$sql = "
    INSERT INTO table
    (first_name, last_name, username, password)
    VALUES
    ('$first_name','$last_name','$username','$password')
";


สำหรับคนอื่นผมไม่รู้ แต่สำหรับผมเองแล้ว แบบหลังอ่านและเขียนง่ายกว่าเยอะ (ทำงานได้เร็วกว่ามากด้วย)




อีกเหตุผลที่ไม่นิยมใช้ตัวแปรในสตริง อาจเป็นเพราะคนส่วนใหญ่ไม่เข้าใจรูปแบบการใช้

อีกเหตุผลที่ผมเดาเอาคือ เพราะไม่เข้าใจการใช้งานที่ถูกต้อง เลยต้องเปลี่ยนไปใช้การเชื่อมต่อสตริง

ผมเชื่อว่าหลายๆ คนต้องเคยมีปัญหาแบบนี้

echo "Test $item[0]['name']";

แล้วแสดงผลไม่ได้ตามต้องการ อาจจะออกเป็น Array แล้วไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น
หรือ

echo "Test $item['name']";

แล้วเกิด Error
Parse error: syntax error, unexpected T_ENCAPSED_AND_WHITESPACE

ทั้งๆ ที่ใช้ echo "Test " . $item['name']; แบบนี้ได้ จึงทำให้เปลี่ยนไปใช้การเชื่อมต่อสตริง

และทำให้เกิดรูปแบบการเขียนโปรแกรม PHP ที่ไม่ดีขึ้นมาอีก 1 อย่างคือ
การนิยมย้ายค่าตัวแปรจาก array ให้เป็นตัวแปรเดี่ยวๆ ก่อนนำไปใช้งาน
โดยที่ไม่ได้เปลี่ยนแปลงค่าของมัน (เช่น escape หรือคำนวณเป็นค่าอื่น)
ใช้การเขียนแบบนี้เพียงเพื่อให้ใช้ในสตริงได้ง่ายๆ

$id = $_POST['id'];
$name = $_POST['name'];
$address = $_POST['address'];
$sql = "INSERT INTO users VALUES ('$id', '$name', '$address')";


ซึ่งเป็นวิธีการเขียนที่สิ้นเปลืองทั้งเวลา และทรัพยากร (มีตัวแปรในหน่วยความจำเยอะแยะไปหมด)
ทั้งๆ ที่ควรเขียนแบบนี้

$sql = "INSERT INTO users VALUES ('$_POST[id]', '$_POST[name]', '$_POST[address]')";





มาทำความเข้าใจรูปแบบโดยละเอียดกัน

การใช้ตัวแปรในสตริง (String Interpolation) ในภาษา PHP นั้น
จะเป็นการใช้สัญลักษณ์ $ ในสตริงแบบ Double Quote หรือ HereDoc

$a = 123;
$b = 456;
$c = 789;

echo "a = $a, b = $b, c = $c\n";

echo <<<DOC
a = $a
b = $b
c = $c
DOC;


แบบที่ 1 ใช้ชื่อตัวแปรตรงๆ

$a = 555;
echo "a is $a.";


แบบที่ 2 อ้างถึงสมาชิกใน array 1 มิติ โดยใช้ index

$a = array(123, 456, 789);
echo "สมาชิกตัวแรกของ a คือ $a[0] ตัวที่ 2 คือ $a[1] และสุดท้ายคือ $a[2]";


และต้องเป็นตัวเลขจำนวนเต็มเท่านั้น เป็นจุดทศนิยมไม่ได้ เพราะจะเกิด Error

$a = array(123, 456, 789);
echo "สมาชิกตัวแรกของ a คือ $a[0] ตัวที่ 2 คือ $a[1.0] และสุดท้ายคือ $a[2.0]";
// Parse error: syntax error, unexpected '.'


แบบที่ 3 อ้างถึงสมาชิกใน array 1 มิติ โดยใช้ key

รูปแบบคือ $array[key]

$ages = array('david' => 45, 'sally' => 20, 'john' => 31);
echo "David is $ages[david] years old\n";
echo "Sally is $ages[sally] years old\n";
echo "John is $ages[john] years old\n";


โดย key นั้นต้องไม่มี ' ล้อมรอบ และไม่มีช่องว่างหรือเครื่องหมายอื่นๆ นอกจากตัวอักษร

$stages = array('Level 1' => 'Forest');

echo "Welcome to stage 1 $stages[Level 1] !!!"; // Parse error: syntax error, unexpected T_ENCAPSED_AND_WHITESPACE


แบบที่ 4 อ้างถึงสมาชิกใน array หลายมิติ หรืออ้างถึงสมาชิกที่ key มีช่องว่างและตัวอักษรพิเศษ

รูปแบบคือ {$array['key1']['key2']}

สังเกตดูนะครับ เมื่อไหร่ที่เราใช้รูปแบบนี้ เราต้องล้อมรอบ key ที่เป็นสตริงด้วย ' (แต่ index ไม่ต้อง)

$users = array(

	array(
		'name' => 'Jack',
		'MAC address' => '01:23:45:67:89:AB',
	),
	array(

		'name' => 'Mike',
		'MAC address' => '51:47:DF:EE:4C:13',
	),

);

echo "User 1: {$users[0]['name']} - {$users[0]['MAC address']}\n";
echo "User 2: {$users[1]['name']} - {$users[1]['MAC address']}\n";


สำหรับการอ้างถึงตัวแปรในสตริงในแบบนี้ มันก็เหมือนกับการเชื่อมต่อสตริงนั่นแหละครับ เพียงแต่เขียนสั้นและอ่านง่ายกว่ามาก

ลองเปรียบเทียบดู

$users = array(

	array(
		'name' => 'Jack',
		'MAC address' => '01:23:45:67:89:AB',
	),
	array(

		'name' => 'Mike',
		'MAC address' => '51:47:DF:EE:4C:13',
	),

);

// แบบเชื่อมต่อสตริง
echo "User 2: " . $users[0.5 + 0.5]['name'] . " - " . $users[floor(0.3)]['MAC' . ' address'] . "\n";

// แบบนี้ไม่ต้องเปิดปิดสตริงให้เสียเวลา ลดความความเสี่ยงที่จะเกิดความผิดพลาดด้วย
echo "User 2: {$users[0.5 + 0.5]['name']} - {$users[floor(0.3)]['MAC' . ' address']}\n";


หวังว่าบทความนี้คงจะมีประโยชน์บ้างนะครับ



Tag : PHP









ประวัติการแก้ไข
2013-02-11 10:43:16
Move To Hilight (Stock) 
Send To Friend.Bookmark.
Date : 2013-02-11 10:39:24 By : cookiephp View : 874 Reply : 14
 

 

No. 1



โพสกระทู้ ( 5,105 )
บทความ ( 4 )

สมาชิกที่ใส่เสื้อไทยครีเอท Hall of Fame 2012

สถานะออฟไลน์


เริ่ด เจ๋ง สวดยอดเลย ลวดเพ่ เอาไป 10 like (วันนี้ให้คะแนนไปแล้ว ให้ซ้ำไม่ได้)






แสดงความคิดเห็นโดยอ้างถึง ความคิดเห็นนี้
Date : 2013-02-11 10:53:14 By : apisitp
 


 

No. 2



โพสกระทู้ ( 1,819 )
บทความ ( 20 )

สมาชิกที่ใส่เสื้อไทยครีเอท

สถานะออฟไลน์
Facebook

ขอบคุณครับ อิอิ
แสดงความคิดเห็นโดยอ้างถึง ความคิดเห็นนี้
Date : 2013-02-11 12:21:58 By : cookiephp
 

 

No. 3



โพสกระทู้ ( 4,169 )
บทความ ( 7 )

Hall of Fame 2012

สถานะออฟไลน์


ตอบความคิดเห็นที่ : 2 เขียนโดย : cookiephp เมื่อวันที่ 2013-02-11 12:21:58
รายละเอียดของการตอบ ::
LIKE

แสดงความคิดเห็นโดยอ้างถึง ความคิดเห็นนี้
Date : 2013-02-11 12:36:07 By : Ex-[S]i[L]e[N]t
 


 

No. 4



โพสกระทู้ ( 74,058 )
บทความ ( 838 )

สมาชิกที่ใส่เสื้อไทยครีเอท

สถานะออฟไลน์
Twitter Facebook

Go to : php การใช้ตัวแปรในสตริง (String Interpolation) การเชื่อมต่อสตริง

Approve ให้แล้วครับ เดียวแชร์กัน Fanpage ให้ครับ รอคิวก่อน
แสดงความคิดเห็นโดยอ้างถึง ความคิดเห็นนี้
Date : 2013-02-11 20:49:05 By : mr.win
 


 

No. 5



โพสกระทู้ ( 1,819 )
บทความ ( 20 )

สมาชิกที่ใส่เสื้อไทยครีเอท

สถานะออฟไลน์
Facebook

ขอบคุณมากครับ
แสดงความคิดเห็นโดยอ้างถึง ความคิดเห็นนี้
Date : 2013-02-11 20:55:52 By : cookiephp
 


 

No. 6



โพสกระทู้ ( 3,155 )
บทความ ( 0 )

สมาชิกที่ใส่เสื้อไทยครีเอท Hall of Fame 2012

สถานะออฟไลน์


ขอเสริมอีกหน่อยครับ เราสามารถนำอาร์เรย์มาเขียนไว้ใน string ได้อีกแบบ เผอิญผมชอบใช้ลักษณะนี้
เพราะมันจะดูเด่นและสังเกตได้ง่ายกว่า

$data["docno"] = "INV56020001";
$data["custname"] = "Mr.Urvin Montana";

echo "{$data["custname"]} : {$data["docno"]}";


แสดงความคิดเห็นโดยอ้างถึง ความคิดเห็นนี้
Date : 2013-02-11 22:45:04 By : sakuraei
 


 

No. 7



โพสกระทู้ ( 74,058 )
บทความ ( 838 )

สมาชิกที่ใส่เสื้อไทยครีเอท

สถานะออฟไลน์
Twitter Facebook

แบร์บน Page ให้แล้วน่ะครับ

Page
http://www.facebook.com/WebThaiCreate

แสดงความคิดเห็นโดยอ้างถึง ความคิดเห็นนี้
Date : 2013-02-14 13:22:30 By : mr.win
 


 

No. 8



โพสกระทู้ ( 1,819 )
บทความ ( 20 )

สมาชิกที่ใส่เสื้อไทยครีเอท

สถานะออฟไลน์
Facebook

อีกบทความครับ หวังว่าจะมีประโยชน์บ้าง




มาทำความเข้าใจ isset() และ empty() ว่ามันมีการทำงานและประโยชน์อย่างไร

isset() ใช้เพื่อตรวจสอบว่า "ตัวแปรนั้นๆ ได้ถูกกำหนดขึ้น และมีค่าที่ไม่ใช่ null หรือไม่"

$a = 'Hello World';
$c = null;
$d = false;
isset($a); // true เพราะมีค่าที่ไม่ใช่ null
isset($b); // false เพราะไม่มีตัวแปร $b อยู่
isset($c); // false เพราะมีค่าเป็น null
isset($d); // true เพราะมีค่าที่ไม่ใช่ null


ซึ่งใช้ตรวจสอบเฉพาะตัวแปรเท่านั้น หากใส่อย่างอื่นลงไป จะเกิด Parse error

isset($a); // ตัวแปรเดี่ยวๆ OK
isset($a[0][1][2]); // ตัวแปร array ที่มีการเข้าถึงสมาชิก OK
isset($a + 1); // อันนี้ไม่ใช่ตัวแปร แต่เป็น expression จะทำให้เกิด Parse error
isset(htmlspecialchars($a)); // อันนี้ไม่ใช่ตัวแปร แต่เป็น function call จะทำให้เกิด Parse error
isset($a[1 + 1]); // ตัวแปร array ที่มีการเข้าถึงสมาชิกด้วย expression OK
isset($a[floor(5.5)]); // ตัวแปร array ที่มีการเข้าถึงสมาชิกด้วย function call OK





ส่วน empty() ใช้เพื่อตรวจสอบว่า "ตัวแปรนั้นๆ ยังไม่ได้ถูกกำหนดขึ้น หรือมีค่าที่ว่างเปล่า หรือไม่"
พูดง่ายๆ คือตรวจว่า มีค่าอยู่หรือไม่

ซึ่งรูปแบบของ "ค่าที่ว่างเปล่า" หรือ "ไม่มีค่า" นี้ได้แก่

null
false
0
'' (สตริงว่าง)
'0' (สตริง 0)
array() (array ที่ไม่มีสมาชิกใดๆ อยู่)

empty() นั้นก็เหมือนกับ isset() ใช้ตรวจสอบเฉพาะตัวแปรเท่านั้น

$a = 'Hello World';
$c = '';
$d = array();
empty($a); // false เพราะมีค่าที่ไม่ใช่ค่าที่ว่างเปล่า
empty($b); // true เพราะไม่มีตัวแปร $b อยู่
empty($c); // true เพราะมีค่าเป็นสตริงว่าง
empty($d); // true เพราะมีค่าเป็น array ที่ว่างเปล่า





isset() สามารถตรวจสอบตัวแปรได้ทีละหลายๆ ตัว แต่ empty() ไม่
ซึ่งจะให้ผลเป็นจริงก็ต่อเมื่อ ตัวแปรทุกตัวที่ตรวจสอบนั้นได้ถูกกำหนดขึ้น และมีค่าที่ไม่ใช่ null

$a = 1;
$b = 2;
$c = 3;
isset($a, $b, $c); // true เพราะทุกตัวมีค่าที่ไม่ใช่ null
isset($a, $b, $c, $d); // false เพราะ $d ยังไม่ถูกกำหนดขึ้น
$c = null;
isset($a, $b, $c); // false เพราะ $c เป็น null
empty($a, $b, $c); // Parse error เพราะ empty() ตรวจตัวแปรได้ทีละตัว





นอกจากการใช้เพื่อประโยชน์ข้างต้นแล้ว จะใช้เพื่ออะไรได้อีก และทำไมถึงควรใช้?

โดยปกติการเขียนโปรแกรมเพื่อเก็บสถานะจริงเท็จ เพื่อตรวจสอบว่าเงื่อนไขเป็นจริงหรือไม่ในภายจะทำในลักษณะนี้คือ

ประกาศตัวแปรขึ้นมา 1 ตัว เพื่อเก็บสถานะนั้น

$done = false;

และในส่วนของโปรแกรม อาจจะมีการทำงานที่กำหนดให้ตัวแปรนี้มีค่าที่ให้ผลเป็นจริงเมื่อตรวจสอบ

$done = true;

และหลังจากนั้นเราก็จะตรวจสอบค่าของตัวแปรนี้ และทำอะไรบางอย่างหากเงื่อนไขเป็นจริง

if ($done) {
// do something
}


ซึ่งหากมีเงื่อนไขหรือสถานะหลายอย่าง ก็ต้องประกาศตัวแปรหลายตัว

$sent = false;
$saved = false;
$cancelled = false;


ในกรณีนี้เราสามารถใช้ isset() เพื่อทำให้ทุกอย่างง่ายขึ้น

เพราะ isset() ตรวจสอบการมีอยู่ของตัวแปร ดังนั้นจึงไม่จำเป็นต้องประกาศตัวแปรก่อนที่จะตรวจสอบ

เราจึงสามารถใช้ isset() ในการตรวจสอบสถานะอะไรบางอย่างได้โดยที่ไม่ต้องประกาศตัวแปรไว้ก่อน

if (isset($sent)) {
    // do something
}
if (isset($saved)) {
    // do something
}
if (isset($cancelled)) {
    // do something
}
// ก่อนหน้านี้จะมีการสร้างตัวแปร $sent, $saved, $cancelled หรือไม่นั้น ไม่สำคัญ
// แต่หากมีการกำหนดให้ตัวแปรเหล่านี้มีค่าที่ไม่ใช่ null เงื่อนไขก็จะเป็นจริงทันที
// ทำให้ประหยัดหน่วยความจำที่จะต้องใช้ไปกับตัวแปรเหล่านี้





ความเร็วในการทำงานล่ะ เรียกใช้ฟังก์ชั่น isset()/empty() เยอะแยะมากมายในโปรแกรมแบบนี้จะไม่ทำให้ช้าหรือ?

คำตอบคือไม่เลยครับ

เพราะ isset()/empty() เป็นโครงสร้างภาษา (Language Construct) ไม่ใช่ฟังก์ชั่น (ถึงแม้จะมีรูปร่างหน้าตาเหมือนฟังก์ชั่น)

และแม้จะใช้การตรวจสอบตัวแปรแบบปกติ ก็ไม่ได้เร็วไปกว่า isset()/empty() เท่าไหร่เลย

$a = true;

$t = microtime(true);
for ($i = 0; $i < 1000000; ++$i) {
    if (!$a) {
    }
}
echo microtime(true) - $t . "<br />\n";

$t = microtime(true);
for ($i = 0; $i < 1000000; ++$i) {
    if (empty($a)) {
    }
}
echo microtime(true) - $t . "<br />\n";


นอกจากนี้เรายังสามารถใช้ isset() ในการตรวจสอบว่า array หรือสตริงมีขนาดน้อยกว่า หรือมากกว่าที่กำหนดหรือไม่ ซึ่งทำงานได้เร็วกว่าการใช้ฟังก์ชั่นเพื่อตรวจสอบ

// ปกติเราคงจะตรวจสอบความยาวสตริงด้วย strlen()
if (strlen($str) > 100) { // ตรวจสอบว่าความยาวมากกว่า 100 หรือไม่
    echo "ยาวเกินไป";
}

// แต่เราก็สามารถใช้ isset() ตรวจสอบได้เหมือนกัน ซึ่งทำงานได้เร็วกว่า
if (isset($str[100])) { // ตรวจสอบว่ามีตัวอักษรที่ 101 ถูกกำหนดไว้แล้วหรือยัง (ตำแหน่งตัวอักษรเริ่มต้นที่ 0)
    echo "ยาวเกินไป";
}

แสดงความคิดเห็นโดยอ้างถึง ความคิดเห็นนี้
Date : 2013-02-15 00:32:51 By : cookiephp
 


 

No. 9



โพสกระทู้ ( 5,105 )
บทความ ( 4 )

สมาชิกที่ใส่เสื้อไทยครีเอท Hall of Fame 2012

สถานะออฟไลน์


น้องเปรม เข้าไปที่หน้าแรกสมาชิกของตัวเอง แล้วเข้าไปที่เขียนบทความเลยครับ.....เขียนไว้เยอะ ๆ เลย
แสดงความคิดเห็นโดยอ้างถึง ความคิดเห็นนี้
Date : 2013-02-15 00:42:02 By : apisitp
 


 

No. 10



โพสกระทู้ ( 1,819 )
บทความ ( 20 )

สมาชิกที่ใส่เสื้อไทยครีเอท

สถานะออฟไลน์
Facebook

เขียนแล้วครับ แต่ก็เอามาโพสต์ในนี้ด้วยไงครับ เพราะผมว่า คนไม่ค่อยรู้หรอกว่ามีบทความมาใหม่ ส่วนใหญ่คงพุ่งเข้ามาในนี้เลย
แสดงความคิดเห็นโดยอ้างถึง ความคิดเห็นนี้
Date : 2013-02-15 00:50:11 By : cookiephp
 


 

No. 11



โพสกระทู้ ( 74,058 )
บทความ ( 838 )

สมาชิกที่ใส่เสื้อไทยครีเอท

สถานะออฟไลน์
Twitter Facebook

เดียวจะ Approve ให้ครับ
แสดงความคิดเห็นโดยอ้างถึง ความคิดเห็นนี้
Date : 2013-02-15 06:43:28 By : mr.win
 


 

No. 12



โพสกระทู้ ( 1,819 )
บทความ ( 20 )

สมาชิกที่ใส่เสื้อไทยครีเอท

สถานะออฟไลน์
Facebook

แนะนำอีกบทความครับ ได้แรงบันดาลใจสดๆ ร้อนๆ เลย

สิ่งที่ทุกคนต้องรู้ ในการเขียนโปรแกรมติดต่อกับฐานข้อมูลด้วย PHP หากไม่อยากให้ระบบที่เขียนนั้นถูก HACK ได้ !!!

https://www.thaicreate.com/community/prevent-sql-injection.html
แสดงความคิดเห็นโดยอ้างถึง ความคิดเห็นนี้
Date : 2013-02-17 18:14:19 By : cookiephp
 


 

No. 13



โพสกระทู้ ( 5,105 )
บทความ ( 4 )

สมาชิกที่ใส่เสื้อไทยครีเอท Hall of Fame 2012

สถานะออฟไลน์


ตอบความคิดเห็นที่ : 12 เขียนโดย : cookiephp เมื่อวันที่ 2013-02-17 18:14:19
รายละเอียดของการตอบ ::
สวดยอดจริงๆ



ประวัติการแก้ไข
2013-02-17 20:15:59
แสดงความคิดเห็นโดยอ้างถึง ความคิดเห็นนี้
Date : 2013-02-17 20:05:48 By : apisitp
 


 

No. 14



โพสกระทู้ ( 1,819 )
บทความ ( 20 )

สมาชิกที่ใส่เสื้อไทยครีเอท

สถานะออฟไลน์
Facebook

รอคุณวินตรวจสอบ อิอิ
แสดงความคิดเห็นโดยอ้างถึง ความคิดเห็นนี้
Date : 2013-02-17 20:10:21 By : cookiephp
 

   

ค้นหาข้อมูล


   
 

แสดงความคิดเห็น
Re : ขอแนะนำบทความหน่อยนะครับ เรื่อง การใช้ตัวแปรในสตริง (String Interpolation) ครับ
 
 
รายละเอียด
 
ตัวหนา ตัวเอียง ตัวขีดเส้นใต้ ตัวมีขีดกลาง| ตัวเรืองแสง ตัวมีเงา ตัวอักษรวิ่ง| จัดย่อหน้าอิสระ จัดย่อหน้าชิดซ้าย จัดย่อหน้ากึ่งกลาง จัดย่อหน้าชิดขวา| เส้นขวาง| ขนาดตัวอักษร แบบตัวอักษร
ใส่แฟลช ใส่รูป ใส่ไฮเปอร์ลิ้งค์ ใส่อีเมล์ ใส่ลิ้งค์ FTP| ใส่แถวของตาราง ใส่คอลัมน์ตาราง| ตัวยก ตัวห้อย ตัวพิมพ์ดีด| ใส่โค้ด ใส่การอ้างถึงคำพูด| ใส่ลีสต์
smiley for :lol: smiley for :ken: smiley for :D smiley for :) smiley for ;) smiley for :eek: smiley for :geek: smiley for :roll: smiley for :erm: smiley for :cool: smiley for :blank: smiley for :idea: smiley for :ehh: smiley for :aargh: smiley for :evil:
Insert PHP Code
Insert ASP Code
Insert VB.NET Code Insert C#.NET Code Insert JavaScript Code Insert C#.NET Code
Insert Java Code
Insert Android Code
Insert Objective-C Code
Insert XML Code
Insert SQL Code
Insert Code
เพื่อความเรียบร้อยของข้อความ ควรจัดรูปแบบให้พอดีกับขนาดของหน้าจอ เพื่อง่ายต่อการอ่านและสบายตา และตรวจสอบภาษาไทยให้ถูกต้อง

อัพโหลดแทรกรูปภาพ

Notice

เพื่อความปลอดภัยของเว็บบอร์ด ไม่อนุญาติให้แทรก แท็ก [img]....[/img] โดยการอัพโหลดไฟล์รูปจากที่อื่น เช่นเว็บไซต์ ฟรีอัพโหลดต่าง ๆ
อัพโหลดแทรกรูปภาพ ให้ใช้บริการอัพโหลดไฟล์ของไทยครีเอท และตัดรูปภาพให้พอดีกับสกรีน เพื่อความโหลดเร็วและไฟล์ไม่ถูกลบทิ้ง

   
  เพื่อความปลอดภัยและการตรวจสอบ กระทู้ที่แทรกไฟล์อัพโหลดไฟล์จากที่อื่น อาจจะถูกลบทิ้ง
 
โดย
อีเมล์
บวกค่าให้ถูก
<= ตัวเลขฮินดูอารบิก เช่น 123 (หรือล็อกอินเข้าระบบสมาชิกเพื่อไม่ต้องกรอก)







Exchange: นำเข้าสินค้าจากจีน, Taobao, เฟอร์นิเจอร์, ของพรีเมี่ยม, ร่ม, ปากกา, power bank, แฟลชไดร์ฟ, กระบอกน้ำ

Load balance : Server 00
ThaiCreate.Com Logo
© www.ThaiCreate.Com. 2003-2024 All Rights Reserved.
ไทยครีเอทบริการ จัดทำดูแลแก้ไข Web Application ทุกรูปแบบ (PHP, .Net Application, VB.Net, C#)
[Conditions Privacy Statement] ติดต่อโฆษณา 081-987-6107 อัตราราคา คลิกที่นี่